ใครควรฉีด
ใครควรได้รับวัคซีน1
กลุ่มที่ 1:
กลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง1
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่
- บุคคลที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป
- บุคคลที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน
- หญิงตั้งครรภ์
- เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
กลุ่มที่ 2:
กลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัส
และการแพร่เชื้อ1
- พนักงานบริการหรือผู้ที่มีอาชีพต้องสัมผัสคนเป็นจํานวนมาก
- ผู้อยู่ในสถานที่แออัด
กลุ่มที่ 3:
กลุ่มผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข1
เพื่อลดอาการป่วยหนัก/เสียชีวิต และรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ
กลุ่มที่ 4:
ประชาชนทั่วไป1
ที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสามารถเข้ารับวัคซีนประจําปีได้เช่นเดียวกัน1 เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนกัน โควิด-19 ประสิทธิภาพจะค่อย ๆ ลดลงไป2
จุดรับบริการ
เสริมภูมิและรักษา
เพื่อภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพร้อมสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเพื่อการรักษาที่รวดเร็วทันท่วงที หากคุณต้องการทราบว่าจุดบริการสำหรับการเสริมภูมิคุ้มและการรักษามีอยู่ที่ไหนบ้าง
References:
- กรมควบคุมโรค. แนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ประจำปี [อินเทอร์เน็ต]. กระทรวงสาธารณสุข. เมษายน 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2 ตุลาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://drive.google.com/file/d/1n3itp5swydVlXvrtWabGQnzUbFsH2mrh/view?usp=drive_link
- CDC Centers for Disease Control and Prevention. Stay Up to Date with COVID-19 Vaccines. [อินเทอร์เนต]. 15 กันยายน 2566. [เข้าถึงเมื่อ 2 ตุลาคม 2566]. เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/stay-up-to-date.html#about-vaccines
วัคซีน XBB
ฉีดกระตุ้นภูมิครั้งใหม่ ด้วยวัคซีน XBB
วัคซีนรุ่นXBB คืออะไร
วัคซีนโควิด-19 XBB หรือ Omicron XBB.1.5 เป็นวัคซีนสายพันธุ์เดี่ยว (Monovalent) รุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ พ.ค. 25661
ทำไมต้องวัคซีน XBB
• ป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันได้ 54%*2
• กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีต่อ สายพันธุ์ JN.1 (สายพันธุ์ปัจจุบัน) ได้ 13 เท่า8
• ลดการป่วยหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาล 63%*3
• ลดการป่วยรุนแรงจนต้องมาห้องฉุกเฉิน 58%*3
• ลดการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าไอซียู ในผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 73%4
*เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน XBB
ความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19
จนถึงปัจจุบันวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ผ่านการตรวจสอบข้อมูลอย่างเข้มงวดในการขึ้นทะเบียน ได้รับอนุมัติให้ใช้ใน 181 ประเทศ และมีการฉีดให้กับประชากรทั่วโลกไปแล้วกว่าหลายร้อยล้านโดส5,6,7 มีระบบการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์อย่างรัดกุม และรับรองความปลอดภัยทั้งจากองค์กรในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ โดยมีคำแนะนำให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามคำแนะนำของแต่ละประเทศ
References:
1) WHO. https://www.who.int/news/item/13-12-2023-statement-on-the-antigen-composition-of-covid-19-vaccines
2) Link-Gelles R, et al. MMWR Morb MortalWkly Rep 2024;73:77-83.
3) Tartof, et al. medRxivpreprint. https://doi.org/10.1101/2023.12.24.23300512
4) van Werkhoven, CH et al. Early COVID-19 vaccine effectiveness of XBB.1.5 vaccine against hospitalization and ICU admission, the Netherlands, 9 October - 5 December 2023. Available at MedRxiv: https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2023.12.12.23299855v1
5) Working To Make COVID-19 Vaccines Accessible to Everyone, Everywhere. https://www.pfizer.com/science/coronavirus/vaccine/working-to-reach-everyone-everywhere
6) COVID-19 vaccine tracker. https://www.bloomberg.com/graphics/covid-vaccine-tracker-global-distribution/
7) COVID-19 Vaccinations. https://ourworldindata.org/covid-vaccinations
8) Wang Q, Guo Y, Bowen A, et al. XBB.1.5 monovalent mRNA vaccine booster elicits robust neutralizing antibodies against XBB subvariants and JN.1. Cell Host Microbe. 2024;32(3):315-321.e3. doi:10.1016/j.chom.2024.01.014
ความรู้สู้โควิด-19
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูกน้อย
คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์
ข้อมูลวัคซีนโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
วัคซีนโควิด -19 XBB หรือ Omicron XBB.1.5 เป็นวัคซีนรุ่นล่าสุดที่ WHO แนะนำให้ใช้ป้องกันโควิด-19 ในปีนี้
ฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี ปกป้องตัวคุณและคนที่คุณรักจากโรคร้าย
แม้ว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตของการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว แต่การระบาดของโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดลง
Q&A วัคซีน
ถาม - ตอบ เกี่ยวกับการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น
แนะนำให้เว้นระยะห่างจากการติดเชื้อครั้งสุดท้ายตั้งแต่ 3เดือนขึ้นไป1
Reference:
1) แนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ประจำปี. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1417120230426124113.pdf
วัคซีนโควิด-19 รุ่นล่าสุด คือ XBB หรือ Omicron XBB.1.5 ที่ WHO แนะนำใช้ป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ปี 20231
ป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันได้ดีกว่า*2, กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีต่อสายพันธุ์ JN.1 (สายพันธุ์ปัจจุบัน) ได้ 13 เท่า*2, ลดการป่วยหนักที่ต้องนอนโรงพยาบาล 63%*3, ลดการป่วยรุนแรงจนต้องมาห้องฉุกเฉิน 58%*3, ลดการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าไอซียู ในผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 73%*4
*เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนรุ่น XBB
References:
1) Statement on the antigen composition of COVID-19 vaccines, WHO, https://www.who.int/news/item/13-12-2023-statement-on-the-antigen-composition-of-covid-19-vaccines (Accessed December 2023)
2) Wang, et al. BioRxivpreprint. https://doi.org/10.1101/2023.11.26.568730; (Accessed December 2023)
3) Tartof, et al. medRxivpreprint. https://doi.org/10.1101/2023.12.24.23300512; (Accessed December 2023)
4) Van Werkhoven, CH et al. Early COVID-19 vaccine effectiveness of XBB.1.5 vaccine against hospitalization and ICU admission, the Netherlands, 9 October - 5 December 2023. Available at MedRxiv: https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2023.12.12.23299855v1 (Accessed December 2023)
บุคคลกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มคน 6081 ได้แก่ บุคคลที่อายุ 60ปีขึ้นไป หรือ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือ หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพราะวัคซีนโควิด-19 จะช่วยลดความรุนแรงของอาการโควิด-19 และลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้2
References:
1) แนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ประจำปี. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1417120230426124113.pdf
2) Benefits of Getting A COVID-19 Vaccine,Centers for Disease Control and Prevention: CDC, Sept. 22, 2023 available at https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/vaccine-benefits.html
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ผ่านการรับรองยืนยันความปลอดภัยจากองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศ
จนถึงปัจจุบันวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ผ่านการตรวจสอบข้อมูลอย่างเข้มงวดในการขึ้นทะเบียน ได้รับอนุมัติให้ใช้ใน 181 ประเทศ และมีการฉีดให้กับประชากรทั่วโลกไปแล้วกว่าหลายร้อยล้านโดส1,2,3 มีระบบการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์อย่างรัดกุม และรับรองความปลอดภัยทั้งจากองค์กรในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ โดยมีคำแนะนำให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามคำแนะนำของแต่ละประเทศ
Centers for Disease Control and Prevention ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผู้ได้รับวัคซีนหลายร้อยล้านโดสในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและติดตามความปลอดภัยของวัคซีนอย่างเข้มงวด และแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA สำหรับทุกคนที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป4,5
แถลงการณ์ร่วมของ European Medicines Agency (EMA) สหภาพยุโรป และ International Coalition of Medicines Regulatory Authorities (ICMRA) ที่มีสมาชิก 24 ประเทศทั่วโลก ยืนยันถึงความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ จากการฉีดวัคซีนทั่วโลกไปแล้วกว่า 13,000 ล้านโดส พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยในทุกช่วงอายุ อาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบไม่รุนแรง และพบอาการข้างเคียงที่รุนแรงในอัตราที่ต่ำมาก โดย EMA และ ICMRA ยังคงสนับสนุนทั้งในเรื่องความปลอดภัยและประโยชน์ของวัคซีนในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-196,7
องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านการขึ้นทะเบียนด้วยเกณฑ์ที่เข้มงวดและได้มาตราฐานทั้งในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ โดยมีระบบการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนที่เข้มงวดรัดกุมและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีความปลอดภัย และ WHO’s Strategic Advisory Group on Immunization (SAGE) ยังคงให้รับวัคซีนตามคำแนะนำที่ระบุไว้8
References:
1) Working To Make COVID-19 Vaccines Accessible to Everyone, Everywhere. https://www.pfizer.com/science/coronavirus/vaccine/working-to-reach-everyone-everywhere
2) COVID-19 vaccine tracker. https://www.bloomberg.com/graphics/covid-vaccine-tracker-global-distribution/
3) COVID-19 Vaccinations. https://ourworldindata.org/covid-vaccinations
4) Centers for Disease Control and Prevention. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/safety/safety-of-vaccines.html
5) Centers for Disease Control and Prevention. Stay Up to Date with COVID-19 Vaccines. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/stay-up-to-date.html
6) International Coalition of Medicines Regulatory Authorities. ICMRA statement on the safety of COVID-19 vaccines. 05 July 2023. https://icmra.info/drupal/strategicinitiatives/vaccines/safety_statement
7) European Medicines Agency. Global regulators confirm good safety profile of COVID-19 vaccines. 05 July 2023. https://www.ema.europa.eu/en/news/global-regulators-confirm-good-safety-profile-covid-19-vaccines
8) World Health Organization. https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/covid-19-vaccines/advice
ไม่จริง กลไกการออกฤทธิ์ของวัคซีน mRNA จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามของไวรัส โดยไม่เข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ร่างกาย จึงไม่มีผลต่อดีเอ็นเอและยีน1,2,3 วัคซีน mRNA จึงไม่จัดว่าเป็นการบำบัดด้วยยีน (gene therapy)4 นอกจากนี้ mRNA และโปรตีนหนามที่สร้างขึ้นจะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจึงไม่เหลือตกค้างอยู่ตามอวัยวะต่างๆ3
References:
1) Centers for Disease Control and Prevention. How mRNA COVID-19 Vaccines Work. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/downloads/vaccines/COVID-19-mRNA-infographic_G_508.pdf
2) Centers for Disease Control and Prevention. Understanding How COVID-19 Vaccines Work. https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/different-vaccines/how-they-work.html
3) U.S. Food & Drug Administration. What is Gene Therapy? https://www.fda.gov/vaccines-blood-biologics/cellular-gene-therapy-products/what-gene-therapy
4) European Medicines Agency. COVID-19 vaccines: key facts. https://www.ema.europa.eu/en/human-regulatory-overview/public-health-threats/coronavirus-disease-covid-19/covid-19-medicines/covid-19-vaccines-key-facts#mrna-covid-19-vaccines-7221
จากการศึกษา population-base cohort study ในประชากรกว่า 46 ล้านคน ในประเทศอังกฤษ ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระหว่างปี2020-2021 พบว่าวัคซีน mRNA ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันชนิดต่างๆ ได้แก่ ischemic stroke, hemorrhagic stroke, Deep vein thrombosis, myocardial infarction, pulmonary embolism ฯลฯ ในทุกช่วงอายุที่ปรากฎในการศึกษา1
Reference:
1) Whiteley, et al. Association of COVID-19 vaccines ChAdOx1 and BNT162b2 with major venous, arterial, or thrombocytopenic events: A population-based cohort study of 46 million adults in England. PLoS Med. 2022;19(2):e1003926. https://doi.org/10.1371/journal.pmed.1003926
ไม่จริง องค์กรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA และโรคมะเร็งดังนี้ European Medicines Agency (EMA) สหภาพยุโรป ยืนยันความปลอดภัยของวัคซีนชนิด mRNA ว่าวัคซีนไม่มีผลกับดีเอ็นเอ และจากการเฝ้าระวังภายหลังฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรพบว่า วัคซีนไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์หรือทำให้เกิดมะเร็ง1 และ National Cancer Institute ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้เกิดมะเร็ง และไม่ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีอาการกำเริบหรือแย่ลง โดยแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ใกล้ชิดรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามคำแนะนำของ Centers for Disease Control and Prevention (CDC)2
Reference:
1) European Medicines Agency. COVID-19 vaccines: key facts. https://www.ema.europa.eu/en/human-regulatory-overview/public-health-threats/coronavirus-disease-covid-19/covid-19-medicines/covid-19-vaccines-key-facts#mrna-covid-19-vaccines-7221
2) National Cancer Institute. COVID-19 Vaccines and People with Cancer. https://www.cancer.gov/about-cancer/coronavirus/covid-19-vaccines-people-with-cancer
1) สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีน ให้ งด ออกกำลังกายหนัก หรือยกของหนัก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2) วันที่ฉีดควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500 - 1,000 ซีซี งด ชา กาแฟ หรือ ของที่มีคาเฟอีน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
3) เลือกฉีดแขนข้างที่ไม่ถนัด และหลังฉีดสองวันหลีกเลี่ยงการใช้แขนข้างที่ฉีด พยายามอย่าเกร็ง หรือยกของหนัก
4) หลังฉีดแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที
5) หากมีไข้ หรือปวดเมื่อยมากจนทนไม่ไหว สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัมได้ครั้งละหนึ่งเม็ด ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นสามารถกินซ้ำได้โดยให้ห่างจากเม็ดก่อนหน้า 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ ห้ามกินยาต้านการอักเสบที่มิใช่กลุ่มสเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, celecoxib หรือ etoricoxib โดยเด็ดขาด
6) หากรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่สามารถกินยาได้ตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดตรงตำแหน่งที่ฉีดนิ่ง ๆ ต่ออีก 1 นาที
Reference:
1) สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. เตรียมตัวพร้อมก่อนฉีดวัคซีนให้ปลอดภัย [อินเทอร์เนต]. 5 มิถุนายน 2564. [เข้าถึงเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/07/159299/
แนะนำให้เว้นระยะห่างจากการติดเชื้อครั้งสุดท้ายตั้งแต่ 3เดือนขึ้นไป1
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยาที่กำลังรับประทาน โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพหรือผู้ให้บริการฉีดวัคซีน1
จากการศึกษาวิจัยวัคซีนโควิด-19 แต่ละชนิด มักพบเป็นปฏิกิริยาเฉพาะที่ เช่น อาการปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยา ถึงแม้ว่าวัคซีนเหล่านี้จะได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา ว่ามีความปลอดภัยและให้ใช้ได้แล้วก็ตาม แต่การฉีดวัคซีนเหล่านี้ก็ยังสามารถทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ในอัตราที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาทีในสถานพยาบาลหรือสถานที่ฉีดวัคซีนเสมอ และเนื่องจากวัคซีนโควิด-19 เป็นวัคซีนใหม่และยังไม่มีข้อมูลการติดตามผลในระยะยาว หากผู้รับวัคซีนเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือไม่มั่นใจว่าอาการดังกล่าวเกิดจากวัคซีนหรือไม่ แนะนำให้ผู้รับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงและเกิดขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน2
Reference
1) CDC. Getting Your COVID-19 Vaccine [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 18 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/expect.html
2) กรมควบคุมโรค. วัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย คำถามที่พบบ่อย [อินเทอร์เนต]. [เข้าถึงเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/pages/คำถามที่พบบ่อย
สามารถค้นหาจุดรับวัคซีนใกล้ตัวได้ ที่นี่