โรคหัวใจและหลอดเลือดกับโควิด 19 เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ปัจจุบันพบว่าการติดเชื้อโควิด 19 ส่งผลทําให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อหัวใจและอวัยวะอื่นๆ โดยผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ บางรายมีอาการต่อเนื่องเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนหลังจากติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งอาการที่พบได้แก่ เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย หายใจเร็ว ใจสั่น ในกรณีที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวอาจมีอาการขาบวม หายใจไม่สะดวกเมื่อนอนราบ ในรายที่รุนแรงอาจถึงขั้นช็อกหมดสติ และเสียชีวิตได้1
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดดํา บริเวณขา 4 คน
- ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 7 คน
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ 19 คน
- ภาวะหัวใจล้มเหลว 11 คน
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด 5 คน
- ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ 1 คน
กลุ่มเสี่ยงที่มักพบภาวะผิดปกติของหัวใจ ได้แก่ ผู้ป่วยสูงอายุ โดยเฉพาะอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ป่วย ที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคถุงลมโป่งพองเรื้อรัง และโรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น3
โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อหัวใจและหลอดเลือดอย่างไร4
เชื้อโควิด 19 จะทํา ให้กล้ามเนื้อหัวใจเกิดความเสียหาย เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ นําไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวตามมา หรืออาจส่งผลต่อหลอดเลือดหัวใจทําให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน รวมไปถึงมีผลต่อหลอดเลือดที่อวัยวะส่วนอื่น ซึ่งทําให้เกิดภาวะต่างๆตามมา เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด เป็นต้น
วัคซีนป้องกันโควิด 19
วัคซีนป้องกันโควิด 19 ถือเป็นเครื่องมือสําคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยควบคุมการระบาดของโรค ลดความรุนแรงของอาการ และลดการเสียชีวิตในผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน การได้รับวัคซีนจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อซ้ําได้
สําหรับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน พบว่ามีทั้งผลข้างเคียงเล็กน้อยไปจนถึงผลข้างเคียงชนิดรุนแรง ซึ่งมีโอกาสเกิดน้อย เช่น การเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่บริเวณหลอดเลือดส่วนต่างๆ รวมไปถึงการเกิดภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ซึ่งพบอุบัติการณ์สูงสุดในเพศชายอายุ 12-17 ปี โดยเฉพาะหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนด้านหัวใจจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 และ จากการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว พบว่าภายหลังการติดเชื้อโควิด 19 ผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบสูงกว่าการฉีดวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอเข็มที่ 2 ถึง 1.8-5.6 เท่า นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าหลังการติดเชื้อโควิด 19 ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติของหัวใจด้านต่างๆ มากกว่าคนที่ได้รับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอทั้งเข็มแรกและเข็มที่ 25
Q: ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 มีมากกว่าความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนด้านหัวใจหรือไม่ ?
A: ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 19 แต่จากข้อมูลการศึกษาต่างๆ ในปัจจุบันยังคงแนะนํา ให้ประชาชนที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด 19 เช่น ปัญหาสุขภาพในระยะยาว การต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงการเสียชีวิต ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว พบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 นั้นมีผลดีอย่างชัดเจน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบน้อยกว่า
แหล่งที่มา
- Guo T, Fan Y, Chen M, Wu X, Zhang L, He T, et al. Cardiovascular Implications of Fatal Outcomes of Patients With Coronavirus Disease 2019 (COVID-19). JAMA Cardiol. 2020;5(7):811-8.
- Xie Y, Xu E, Bowe B, Al-Aly Z. Long-term cardiovascular outcomes of COVID-19. Nat Med. 2022;28(3):583-90.
- Xu H, Hou K, Xu R, Li Z, Fu H, Wen L, et al. Clinical characteristics and risk factors of cardiac involvement in covid-19. J Am Heart Assoc. 2020;9(18).
- Chung MK, Zidar DA, Bristow MR, Cameron SJ, Chan T, Harding CV, 3rd, et al. COVID-19 and Cardiovascular Disease: From Bench to Bedside. Circ Res. 2021;128(8):1214-36.
- Block JP, Boehmer TK, Forrest CB, Carton TW, Lee GM, Ajani UA, et al. MMWR, Cardiac Complications After SARS-CoV-2 Infection and mRNA COVID-19 Vaccination — PCORnet, United States, January 2021–January 2022 [Internet]. Available from: https://pcornet.org/data
ควรศึกษาข้อควรระวัง อาการไม่พึงประสงค์ ข้อกําหนดในการรับวัคซีน เพื่อการได้รับวัคซีนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
บทความที่เกี่ยวข้อง
เพราะเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงอยู่ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) จึงยังคงเป็นเรื่องสำคัญ
กี่เข็มไม่สำคัญเท่านานเกิน 1 ปีจากเข็มสุดท้าย เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนค่อย ๆ ลดลง จึงควรฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ
ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำติดเชื้อได้ง่าย เช่น โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ตนเอง ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ควรรับวัคซีนโควิด-19 อย่างยิ่ง ดูวิธีเตรียมตัวก่อนฉีดได้ที่นี่